ข้อมูลดัชนีคุณภาพอากาศ
ดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index : AQI)
เป็นการรายงานข้อมูลคุณภาพอากาศในรูปแบบที่ง่ายต่อความเข้าใจของประชาชนทั่วไป เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนได้รับทราบถึงสถานการณ์มลพิษทางอากาศในแต่ละพื้นที่ว่าอยู่ในระดับใด มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยหรือไม่ ดัชนีคุณภาพอากาศ 1 ค่า ใช้เป็นตัวแทนค่าความเข้มข้นของสารมลพิษทางอากาศ 6 ชนิด ได้แก่
- ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เป็นฝุ่นที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมครอน เกิดจากการเผาไหม้ทั้งจากยานพาหนะ การเผาวัสดุการเกษตร ไฟป่า และกระบวนการอุตสาหกรรม สามารถเข้าไปถึงถุงลมในปอดได้ เป็นผลทําให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ และโรคปอดต่างๆ หากได้รับในปริมาณมากหรือเป็นเวลานานจะสะสมในเนื้อเยื่อปอด ทําให้การทํางานของปอดเสื่อมประสิทธิภาพลง ทําให้หลอดลมอักเสบ มีอาการหอบหืด
- ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เป็นฝุ่นที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 10 ไมครอน เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง การเผาในที่โล่ง กระบวนการอุตสาหกรรม การบด การโม่ หรือการทําให้เป็นผงจากการก่อสร้าง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพเนื่องจากเมื่อหายใจเข้าไปสามารถเข้าไปสะสมในระบบทางเดินหายใจ
- ก๊าซโอโซน (O3) เป็นก๊าซที่ไม่มีสีหรือมีสีฟ้าอ่อน มีกลิ่นฉุน ละลายน้ำได้เล็กน้อย เกิดขึ้นได้ทั้งในระดับบรรยากาศชั้นที่สูงจากผิวโลก และระดับชั้นบรรยากาศผิวโลกที่ใกล้พื้นดิน ก๊าซโอโซนที่เป็นสารมลพิษทางอากาศคือก๊าซโอโซนในชั้นบรรยากาศผิวโลก เกิดจากปฏิกิริยาระหว่างก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย โดยมีแสงแดดเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยก่อให้เกิดการระคายเคืองตาและระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจและเยื่อบุต่างๆ ความสามารถในการทำงานของปอดลดลง เหนื่อยเร็ว โดยเฉพาะในเด็ก คนชรา และคนที่เป็นโรคปอดเรื้อรัง
- ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) เป็นก๊าซที่ไม่มีสี กลิ่น และรส เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเชื้อเพลิงที่มีคาร์บอนเป็นองค์ประกอบ ก๊าซนี้สามารถสะสมอยู่ในร่างกายได้โดยจะไปรวมตัวกับฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงได้ดีกว่าออกซิเจนประมาณ 200–250 เท่า เมื่อหายใจเข้าไปทำให้ก๊าซชนิดนี้จะไปแย่งจับกับฮีโมโกลบินในเลือด เกิดเป็นคาร์บอกซีฮีโมโกลบิน (CoHb) ทำให้การลำเลียงออกซิเจนไปสู่เซลล์ต่างๆ ของร่างกายลดน้อยลง ส่งผลให้ร่างกายเกิดอาการอ่อนเพลีย และหัวใจทำงานหนักขึ้น
- ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) เป็นก๊าซที่ไม่มีสีและกลิ่น ละลายน้ำได้เล็กน้อย มีอยู่ทั่วไปในธรรมชาติ หรือเกิดจากการกระทำของมนุษย์ เช่น การเผาไหม้เชื้อเพลิงต่างๆ อุตสาหกรรมบางชนิด เป็นต้น ก๊าซนี้มีผลต่อระบบการมองเห็นและผู้ที่มีอาการหอบหืดหรือโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ
- ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) เป็นก๊าซที่ไม่มีสี หรืออาจมีสีเหลืองอ่อนๆ มีรสและกลิ่นที่ระดับความเข้มข้นสูง เกิดจากธรรมชาติและการเผาไหม้เชื้อเพลิงที่มีกำมะถัน (ซัลเฟอร์) เป็นส่วนประกอบ สามารถละลายน้ำได้ดี สามารถรวมตัวกับสารมลพิษอื่นแล้วก่อตัวเป็นอนุภาคฝุ่นขนาดเล็กได้ ก๊าซนี้มีผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพ ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุตา ผิวหนัง และระบบทางเดินหายใจ หากได้รับเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้เป็นโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังได้
ดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศไทยแบ่งเป็น 5 ระดับ คือ ตั้งแต่ 0 ถึง 201 ขึ้นไป ซึ่งแต่ละระดับจะใช้สีเป็นสัญญลักษณ์เปรียบเทียบระดับของผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย (ตารางที่ 1) โดยดัชนีคุณภาพอากาศ 100 จะมีค่าเทียบเท่ามาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศโดยทั่วไป หากดัชนีคุณภาพอากาศมีค่าสูงเกินกว่า 100 แสดงว่าค่าความเข้มข้นของมลพิษทางอากาศมีค่าเกินมาตรฐานและคุณภาพอากาศในวันนั้นจะเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน
ดีมาก
ดี
ปานกลาง
เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
มีผลกระทบต่อสุขภาพ
0 - 25
26 - 50
51 - 100
101-200
201 ขึ้นไป
ตารางที่ 1 เกณฑ์ของดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศไทย
ค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI)
สีที่ใช้
ความหมาย (ระดับคุณภาพอากาศ)
ข้อควรปฏิบัติ
0 - 25
ดีมาก
ประชาชนทุกคนสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ
26 - 50
ดี
ประชาชนทั่วไป : สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ
ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออก หายใจมีเสียงวี้ด แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก ใจสั่น คลื่นไส้ เมื่อยล้าผิดปกติ หรือ วิงเวียนศีรษะ
51 - 100
ปานกลาง
ประชาชนทั่วไป : ลดระยะเวลาการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก
ประชาชนกลุ่มเสี่ยง :
- ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้ง ที่ออกนอกอาคาร
- ลดระยะเวลาการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก
- หากมีอาการผิดปกติให้รีบปรึกษาแพทย์
101 - 200
เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ประชาชนทั่วไป :
- ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร
- จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก
- ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา
ประชาชนกลุ่มเสี่ยง :
- ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร
- เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก
- ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
201 ขึ้นไป
มีผลกระทบต่อสุขภาพ
ประชาชนทุกคน
- งดกิจกรรมกลางแจ้ง
- หากมีความจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองทุกครั้ง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5
- หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยจากมลพิษทางอากาศ ให้เตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อมและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
การคำนวณดัชนีคุณภาพอากาศรายวันของสารมลพิษทางอากาศแต่ละประเภท
คำนวณจากค่าความเข้มข้นของสารมลพิษทางอากาศจากข้อมูลผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศ โดยมีระดับของค่าความเข้มข้นของสารมลพิษทางอากาศที่เทียบเท่ากับค่าดัชนีคุณภาพอากาศที่ระดับต่างๆ ดัง (ตารางที่ 2) การคำนวณดัชนีคุณภาพอากาศภายในช่วงระดับ เป็นสมการเส้นตรง ดังนี้
กำหนดให้
I
ค่าดัชนีย่อยคุณภาพอากาศ
X
ความเข้มข้นของสารมลพิษทางอากาศจากการตรวจวัด
Xi , Xj
ค่าต่ำสุด, สูงสุด ของช่วงความเข้มข้นสารมลพิษที่มีค่า X
Ii , Ij
ค่าต่ำสุด, สูงสุด ของช่วงดัชนีคุณภาพอากาศที่ตรงกับช่วงความเข้มข้น X จากค่าดัชนีย่อยที่คำนวณได้ สารมลพิษทางอากาศประเภทใดมีค่าดัชนีสูงสุด จะใช้เป็นดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ณ ช่วงเวลานั้น
ตารางที่ 2 ค่าความเข้มข้นของสารมลพิษทางอากาศที่เทียบเท่ากับค่าดัชนีคุณภาพอากาศ
ค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI)
PM₂₅ (ug/m³)
PM₁₀ (ug/m³)
เฉลี่ย 24 ชั่วโมงต่อเนื่อง
O₃ (ppm)
CO (ppm)
เฉลี่ย 8 ชั่วโมงต่อเนื่อง
NO₂ (ppb)
SO₂ (ppb)
เฉลี่ย 1 ชั่วโมง
0 - 25
0 - 15.0
0 - 50
0 - 35
0 - 4.4
0 - 60
0 - 100
26 - 50
15.1 - 25.0
51 - 80
36 - 50
4.5 - 6.4
61 - 106
101 - 200
51 - 100
25.1 - 37.5
81 - 120
51 - 70
6.5 - 9.0
107 - 170
201 - 300
101 - 200
37.6 - 75.0
121 - 180
71 - 120
9.1 - 30.0
171 - 340
301 - 400
201 ขึ้นไป
75.1 ขึ้นไป
181 ขึ้นไป
121 ขึ้นไป
30.1 ขึ้นไป
341 ขึ้นไป
401 ขึ้นไป
ช่วงเวลาเฉลี่ย และหน่วยสารมลพิษทางอากาศที่ใช้ในการคำนวน
- PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมงต่อเนื่อง : ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือ มคก./ลบ.ม. หรือ µg./m³
- PM10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมงต่อเนื่อง : ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือ มคก./ลบ.ม. หรือ µg./m³
- O3 เฉลี่ย 8 ชั่วโมงต่อเนื่อง : ส่วนในพันล้านส่วน หรือ ppb หรือ 1/1,000,000,000
- CO เฉลี่ย 8 ชั่วโมงต่อเนื่อง : ส่วนในล้านส่วน หรือ ppm หรือ 1/1,000,000
- NO2 เฉลี่ย 1 ชั่วโมง : ส่วนในพันล้านส่วน หรือ ppb หรือ 1/1,000,000,000
- SO2 เฉลี่ย 1 ชั่วโมง : ส่วนในพันล้านส่วน หรือ ppb หรือ 1/1,000,000,000
ทดลองคำนวณค่าดัชนีคุณภาพอากาศ
พารามิเตอร์ | ค่าเฉลี่ย | ค่า Index | ระดับสี |
---|---|---|---|
PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมงต่อเนื่อง | µg/m³ | 0 | |
PM10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมงต่อเนื่อง | µg/m³ | 0 | |
O3 เฉลี่ย 8 ชั่วโมงต่อเนื่อง | ppb | 0 | |
CO เฉลี่ย 8 ชั่วโมงต่อเนื่อง | ppm | 0 | |
NO2 เฉลี่ย 1 ชั่วโมง | ppb | 0 | |
SO2 เฉลี่ย 1 ชั่วโมง | ppb | 0 | |
ค่าดัชนีคุณภาพอากาศ AQI | . | 0 |
ค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศ ของประเทศไทย
สารมลพิษ ในบรรยากาศ (Air Pollutants) | ค่ามาตรฐาน (Standards) จะต้องไม่เกิน | ค่าเฉลี่ยเวลา (Averagingtime) | วิธีตรวจวัด | |
---|---|---|---|---|
ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ | ประกาศกรมควบคุมมลพิษ | |||
ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) (1) | 30 ppm (34.2mg/m³) 9 ppm (10.26mg/m³) | 1 ชั่วโมง 8 ชั่วโมง | ระบบนันดีสเปอร์ซีฟ อินฟราเรด ดีเทคชั่น (Non-dispersive Infrared Detection) | - |
ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO₂) (1),(2),(3) | 0.30 ppm (780 μg/m³) 0.12 ppm (0.30 mg/m³) 0.04 ppm (0.10 mg/m³) | 1 ชั่วโมง 24 ชั่วโมง 1 ปี | ระบบ ยู วี ฟลูออเรสเซน (2) ระบบพาราโรซานิลีน (Pararosaniline) (1) | ระบบพาราโรซานิลีน (Pararosaniline) ระบบอุลตร้าไวโอเลต แอ็บซอบชั่น โฟโตเมดตรี (Ultraviolet Absorption Photometry) |
ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO₂) (1),(5) | 0.17 ppm (0.32 mg/m³) 0.03 ppm (0.057 mg/m³) | 1 ชั่วโมง 1 ปี | ระบบเคมีลูมิเนสเซน (Chemiluminescence) (5) | ระบบคาวิตี แอทเทนนูเอเต็ด เฟส ชิพ สเปกโทรสโกปี (Cavity Attenuated Phase Shift Spectroscopy; CAPS) |
ก๊าซโอโซน (O₃) (1),(4) | 0.10 ppm (0.20 mg/m³) 0.07 ppm (0.14 mg/m³) | 1 ชั่วโมง 8 ชั่วโมง | ระบบเคมีลูมิเนสเซน (Chemiluminescence) (4) | ระบบอุลตร้าไวโอเลต แอ็บซอบชั่น โฟโตเมดตรี (Ultraviolet Absorption Photometry) |
ตะกั่ว (Pb) (1) | 1.5 μg/m³ | 1 เดือน | ระบบอะตอมมิก แอบซอพชั่น สเปคโตรมิเตอร์ (Atomic Absorption Spectrometer) | - |
ฝุ่นละอองรวมหรือฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 100 ไมครอน (TSP) (1),(3) | 0.33 mg/m³ 0.10 mg/m³ | 24 ชั่วโมง 1 ปี | ระบบกราวิเมตริก (Gravimetric) | - |
ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM₁₀) (1),(3),(9) | 120 μg/m³ 50 μg/m³ | 24 ชั่วโมง 1 ปี | ระบบกราวิเมตริก (Gravimetric) (1) | - วิธีเบต้า เรดิเอชั่น แอทเทนนูเอชัน
(Beta Radiation Attenuation หรือ Beta Ray Attenuation) - วิธีเทปเปอร์ อิลิเมนต์ ออสซิเลติง ไมโครบาลานซ์ (Tapered Element Oscillating Microbalance: TEOM) - วิธีการกระเจิงของแสง (Light Scattering) - วิธีเก็บตัวอย่างด้วยเครื่องเก็บตัวอย่างอากาศแบบไดโคโตมัส (Dichotomous Air Sampler) |
ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM₂.₅) (6) | 37.5 μg/m³ 15 μg/m³ | 24 ชั่วโมง 1 ปี | ระบบกราวิเมตริก (Gravimetric) | - วิธีเบต้า เรดิเอชั่น แอทเทนนูเอชัน
(Beta Radiation Attenuation หรือ Beta Ray Attenuation) - วิธีเทปเปอร์ อิลิเมนต์ ออสซิเลติง ไมโครบาลานซ์ (Tapered Element Oscillating Microbalance: TEOM) - วิธีการกระเจิงของแสง (Light Scattering) - วิธีเก็บตัวอย่างด้วยเครื่องเก็บตัวอย่างอากาศแบบไดโคโตมัส (Dichotomous Air Sampler) และวิเคราะห์ด้วยวิธีกราวิเมตริก |
ก๊าซคาร์บอนไดซัลไฟด์ (CS₂) (7) | 100 μg/m³ | 24 ชั่วโมง | US EPA Compendium Method TO-15 (7) | - |
ค่ามาตรฐานสารอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile Organic Compounds; VOCs) (8) | ||||
1) เบนซีน (Benzene) | 1.7 μg/m³ | 1 ปี | US EPA Compendium Method TO-14A หรือ US EPA Compendium Method TO-15 | - |
2) ไวนิลคลอไรด์ (Vinyl Chloride) | 10 μg/m³ | 1 ปี | ||
3) 1,2-ไดคลอโรอีเทน (1,2-Dichloroethane) | 0.4 μg/m³ | 1 ปี | ||
4) ไตรคลอโรเอทธิลีน (Trichloroethylene) | 23 μg/m³ | 1 ปี | ||
5) ไดคลอโรมีเทน (Dichloromethane) | 22 μg/m³ | 1 ปี | ||
6) 1,2-ไดคลอโรโพรเพน (1,2-Dichloropropane) | 4 μg/m³ | 1 ปี | ||
7) เตตระคลอโรเอทธิลีน (Tetrachloroethylene) | 200 μg/m³ | 1 ปี | ||
8) คลอโรฟอร์ม (Chloroform) | 0.43 μg/m³ | 1 ปี | ||
9) 1,3-บิวทาไดอีน (1,3-Butadiene) | 0.33 μg/m³ | 1 ปี |
หมายเหตุ
- กรมควบคุมมลพิษออกประกาศวิธีตรวจวัดอื่นเพิ่มจากวิธีตรวจวัดตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
- ppm คือ ส่วนในล้านส่วน
- mg/m3 คือ มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- μg/m3 คือ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- - คือ ไม่ได้กำหนด
ดัดแปลงจาก
- (1) ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2538) เรื่อง กำหนดมาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศโดยทั่วไป ประกาศ ณ วันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2538
- (2) ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 21 (พ.ศ. 2544) เรื่อง กำหนดมาตรฐานค่าก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในบรรยากาศโดยทั่วไป ในเวลา 1 ชั่วโมง ประกาศ ณ วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2544
- (3) ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2547) เรื่อง กำหนดมาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศโดยทั่วไป ประกาศ ณ วันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2547
- (4) ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 28 (พ.ศ. 2550) เรื่อง กำหนดมาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศโดยทั่วไป ประกาศ ณ วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2550
- (5) ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 33 (พ.ศ. 2552) เรื่อง กำหนดมาตรฐานค่าก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ในบรรยากาศโดยทั่วไป ประกาศ ณ วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2552
- (6) ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง กำหนดมาตรฐานฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ในบรรยากาศโดยทั่วไป ประกาศ ณ วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2565
- (7) ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง กำหนดมาตรฐานก๊าซคาร์บอนไดซัลไฟด์ในบรรยากาศโดยทั่วไป ประกาศ ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2560
- (8) ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 30 (พ.ศ. 2550) เรื่อง กำหนดมาตรฐานค่าสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศโดยทั่วไปในเวลา 1 ปี ประกาศ ณ วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2550
- (9) ประกาศกรมควบคุมมลพิษ เรื่อง เครื่องวัดและวิธีตรวจวัดค่าเฉลี่ยของก๊าซหรือฝุ่นละอองในบรรยากาศในบรรยากาศโดยทั่วไประบบอื่นหรือวิธีอื่นที่กรมควบคุมมลพิษเห็นชอบ ประกาศ ณ วันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2562